ป่าชายหาด

ป่าชายหาด คืออะไร

ชายทะเลก็มีป่า..โดยส่วนใหญ่เราอาจยังไม่รู้ว่าชายหาดที่สวยงามนั้นมีระบบนิเวศหนึ่งที่สำคัญมากที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาของระบบนิเวศชายฝั่งและช่วยรักษาความเสถียรของชายหาด ร่วมกับระะบนิเวศอื่นๆ
เมื่อเอ่ยถึงป่าชายหาด เชื่อว่าหลายคนยังคงงงๆว่า อ้าว! ชายหาดนี่มันมีป่าด้วยเหรอ ไปทีไรก็เจอแต่ร่มชายหาด และโรงแรมรีสอร์ตเดี๋ยวจะเล่าเรื่องป่าชายเลนเผื่อพอสร้างความเข้าใจอันดีเพิ่มขึ้น

เมื่อพูดถึงป่าชายหาด หลายคนคงนึกถึงทิวสนทอดยาวตลอดริมทะเลนั่นก็เป็นป่าสนชายหาด แต่เป็นป่าที่ค่อนข้างขาดความหลากหลายทางชีวภาพและบทบาทในการรักษาชายฝั่ง จะพาไปรู้จักกับป่าชายหาดดั้งเดิมที่ช่วยในการสร้างแผ่นดินและชายหาดจากสันดอนทรายว่างเปล่าให่เราได้มีหาดสวยๆได้พักผ่อนหย่อนใจกัน

ป่าชายหาด (Beach forest) คือสังคมพืชที่พัฒนาก่อตัวบนสันดอนทรายชายฝั่ง ประกอบด้วยพรรณพืชที่มีความสามารถปรับตัวให้ทนกับไอเค็ม และความแห้งแล้ง รวมถึงสามารถเติบโตได้ในบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารในดินต่ำ ซึ่งการปรับตัวที่จำเป็นสำหรับพืชในป่าชายหาด ได้แก่
• ใบที่สามารถทนไอเค็มและช่วยลดการคายน้ำได้ดี เช่นใบของ ต้นจิกทะเล สารภีทะเล รักทะเล ที่จะมีชั้นเคลือบใบลื่นและทำให้ไอเกลือจับใบได้น้อย
• ผลที่ถูกออกแบบมาให้ทนความเค็มลอยน้ำได้ไกลๆ เพื่อไปงอกในที่ๆเป็นสันดอนหรือหาดทรายอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องง้อสัตว์ให้เป็นตัวกระจายเมล็ดให้ ทำให้ผลของพืชในป่าชายหาดส่วนใหญ่จะมีสารอาหารสำหรับดึงดูดความสนใจของสัตว์น้อยกว่าพืชในระบบนิเวศอื่นๆ
• ลำต้นและราก การอยู่บนพื้นทรายที่ไม่มีความมั่นคง และอาจถูกกัดเซาะให้ล้มโดยน้ำและลม พืชบนป่าชายหาดจึงมีรากที่พร้อมจะงอกอยู่จากบริเวณข้อของลำต้นส่วนลำต้นมักเป็นข้อคดเคี้ยวรากแผ่กว้างเมื่อล้มลงก็พร้อมจะแตกรากและชูยอดใหม่ขึ้นเสมอ

โครงสร้างและการแพร่กระจายของพืชป่าชายหาด


โครงสร้างสังคมพืชของป่าชายหาดจะมีการแบ่งเขตที่ชัดเจน จะเสนอเพียง 2 เขตคือ ป่าชายหาดด้านหน้า และป่าชายหาดด้านใน ที่อาจมีการปรับตัวของพืชแตกต่างกันเล็กน้อย บริเวณป่าชายหาดด้านหน้านั้นจะประกอบด้วยพืชหลายกลุ่มมีการขึ้นที่เรียงลำดับตามความสูงของเรือนยอด ตามลำดับดังนี้
• ด้านนอกสุดที่อยู่บริเวณระดับน้ำขึ้น-ลง จะพบกลุ่มไม้เลื้อยชิดดิน เช่น หญ้าลอยลม ผักบุ้งทะเล ถั่วคล้าเป็นต้น
• กลุ่มไม้พุ่ม จะพบถัดเข้ามาในแนวชายฝั่ง ไม้พุ่มมักขึ้นกันอยู่เป็นกลุ่มหนาแน่นเช่นรักทะเล พลับพลึงทะเล ผักหวานทะเล
• กลุ่มไม้ยืนต้นเตี้ยๆพืชุ่มนี้จะพบในบริเวณที่ถ้ดเข้ามาแต่ไม่ลึดมากอาจพบขึ้นปะปนกับกลุ่มไม้พุ่ม ซึ่งพืชกลุ่มนี้ ได้แก่ เตยทะเล ตีนเป็ดทะเล
• กลุ่มไม้ยืนต้นสูง กลุ่มนี้อาจพบตั้งแต่แนวชายฝั่ง จนกระทั่งลึกเข้ามาในแผ่นดิน เช่น ต้นจิกทะเล ต้นเมา

ลักษณะใบ ผล และระบบรากของพืชป่าชายหาด


ป่าชายหาดช่วยในการรักษา และเพิ่มทรายชายหาดอย่างไร หากดูจากรูปที่ 3 จะเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่กระทำต่อชายหาดได้แก่ คลื่น ลม และกระแสน้ำ คลื่นจะเป็นตัวการนำทรายเข้ามาสะสม และพัดทรายออกสู่ทะเล รวมทั้งเป็นตัวทำให้เกิดไอเค็มที่จะถูกพัดพาเข้าสู่ชายฝั่งโดยลม และทรายบางส่วนที่อยู่บนหาดก็จะถูกพัดเข้าสู่ชายฝั่งโดยลม ซึ่งมักเป็นทรายที่มีอนุภาคเล็กแห้งและเบา เมื่อลมพัดทรายมาปะทะกับชั้นเรือนยอดต่างๆ ทำให้เกิดการชะลอตัว และอนุภาคทรายก็จะตกทับถมบริเวณด้านหน้าแนวป่า พืชคลุมดินจะทำหน้าที่รักษาทรายไม่ให้ถูกลมพัดได้อีก

ส่วนในบริเวณน้ำขึ้นสูงสุด เมื่อน้ำขึ้น ผักบุ้งทะเลจะดักทรายที่ถูกคลื่นพัดพามาจากทะเลให้เกิดการทับถมของทรายสูงขึ้น เมื่อทรายเสถียร พืชกลุ่มต่างๆก็จะรุกคืบออกไปได้ และระบบรากที่แผ่กว้างและซับซ้อนของพืชกลุ่มที่เป็นไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นจะทำหน้าที่ยึดดินและทรายให้มีความมั่นคงขึ้นส่วนไอเค็มที่ถูกเรือนยอดสูงๆดักไว้ทำให้ไม่สามารถพัดไปได้ไกล

บทบาทของป่าชายหาดที่มีต่อหาดทราย


ในบริเวณหลังเขตแนวป่าชายหาดจึงมีกลุ่มพืชที่ไม่สามารถทนไอเค็มได้สามารถพัฒนาก่อตัวขึ้นมาเป็นสังคมพืชป่าชายหาดด้านใน และหากไม่ถูกรบกวนนานเข้าก็จะกลายเป็นป่าบกในที่สุด

หากเราสามารถรักษาความสมดุลของระบบนิเวศป่าชายหาดก็จะช่วยให้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งเบาบางลงจากการทำหน้าที่ของธรรมชาติได้ แต่ปัจจุบันชายหาดและชายฝั่งส่วนใหญ่ ถูกบุกรุก และเปลี่ยนแปลงไปมากอาจเนื่องมาจากความไม่รู้จัก ‘ป่าชายหาด’ ไม่เข้าใจ ในคุณค่าและหน้าที่ของมัน ซึ่งอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เร่งให้เกิดปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งในที่สุด